ไวรัส RSV
ไวรัส RSV คืออะไร? เกิดจากอะไร?
RSV (Respiratory Syncytial Virus) คือไวรัสชนิดมีเปลือกหุ้มที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง มักพบในเด็กเล็กรวมไปถึงผู้สูงอายุทั่วโลก มีสองสายพันธุ์ด้วยกันได้แก่ RSV-A และ RSV-B โดยพบการระบาดได้บ่อยในช่วงฤดูฝนหรือฤดูฝนต้นหนาว ร่างกายของเราสามารถสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส RSV หลังการติดเชื้อ แต่ภูมิคุ้มกันนี้ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต เป็นเหตุให้สามารถติดเชื้อไวรัส RSV ซ้ำได้หลายครั้ง
อาการของการติดไวรัส RSV มีอะไรบ้าง? ติดต่อจากอะไร?
หลังผ่านไป 2-8 วัน ผู้ติดเชื้อไวรัส RSV มักจะเริ่มแสดงอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไอ จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก หากอาการโรคลุกลามสู่ทางเดินหายใจส่วนล่าง อาการจะเริ่มทรุดหนัก ควรรีบเข้าพบแพทย์หากเกิดอาการดังต่อไปนี้
ไข้สูงมากกว่า 39 องศาเซลเซียส
ไอแรงจนอาเจียน
หอบเหนื่อย หายใจเร็วจนชายโครงหรืออกบุ๋ม
หายใจออกลำบากหรือหายใจมีเสียงหวีด
เกิดเสียงครืดคราดในลำคอ
เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น หลอดลมฝอยอักเสบและปอดอักเสบ
ไม่สามารถทานอาหารหรือนมได้
ซึม
การติดต่อของเชื้อไวรัส RSV สามารถติดต่อได้จากการหายใจเอาละอองเสมหะของผู้ป่วย RSV เช่น น้ำมูก น้ำลายหรือการสัมผัสพื้นผิว สิ่งของที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เช่น ของเล่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู ทั้งนี้เชื้อไวรัส RSV สามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถติดอยู่บนมือของเราได้นานถึง 30 นาที
กลุ่มเสี่ยงของไวรัส RSV และวิธีการป้องกัน
สำหรับผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถหายเองได้ใน 1-2 สัปดาห์ หากผู้ติดเชื้อไวรัส RSV เป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยง อาจพบอาการรุนแรงและมีโอกาสเสียชีวิตได้ เนื่องจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว
โดยกลุ่มเสี่ยงติดโรค RSV มีดังนี้
ทารกคลอดก่อนกำหนดอายุไม่เกิน 12 เดือน
เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
ผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
ผู้ใหญ่อายุระหว่าง 50- 59 ปี ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ
ผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ RSV โดยตรง การรักษามักมุ่งเน้นไปที่การรักษาตามอาการ การป้องกันการติดเชื้อแต่แรกจึงเป็นส่วนที่ควรให้ความสำคัญ เราสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ได้โดย
หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ
ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่และน้ำสะอาด ควรสอนให้เด็ก ๆ รู้จักการล้างมือที่ถูกต้องตั้งแต่เล็ก ๆ
หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด
ผู้ป่วยควรรักษาตัวให้หาย ลดการออกนอกบ้านในช่วงที่ไม่สบายเพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ
ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส RSV ในผู้ใหญ่หรือรับภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสำหรับเด็ก
นอกจากนี้ในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์อายุ 24 - 36 สัปดาห์ วัคซีนยังช่วยส่งต่อภูมิคุ้มกันให้เด็กจนถึงหลังคลอดได้ 6 เดือนอีกด้วย
บริการจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
ปัจจุบันโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนมีบริการป้องกันไวรัส RSV อยู่ 2 บริการด้วยกัน ได้แก่
ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป Nirsevimab สำหรับเด็ก เหมาะสำหรับกลุ่มเสี่ยงอย่าง ทารกคลอดก่อนกำหนดอายุไม่เกิน 12 เดือน, เด็กที่มีโรคหัวใจแต่กำเนิดและเด็กที่มีโรคปอดเรื้อรังอายุไม่เกิน 2 ปี โดยวัคซีนมุ่งเน้นไปที่การสร้างภูมิคุ้มกันไวรัส RSV โดยมีประสิทธิภาพในการลดอัตราการเข้ารักษาตัวของกลุ่มเสี่ยงลง
วัคซีนป้องกัน RSV สำหรับผู้ใหญ่ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวหรือกลุ่มผู้มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ วัคซีน RSV จะช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อไวรัส RSV ลดโอกาสติดเชื้อและความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส RSV
ขอขอบคุณบทความโดย นพ. ปธิกร ศรีวิทิตกุล
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
แผนกตรวจสุขภาพ ชั้น 2 อาคารหมอแวลส์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
แผนกสูตินรีเวชกรรม ชั้น 2 อาคารหมอแวลส์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
เวลาทำการ
จันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-16.00 น.
เสาร์ เวลา 07.00-15.00 น.
อาทิตย์ 07.00-12.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม, นัดหมายแพทย์ได้ที่
☎ 0-2625-9000, 0-2760-9000 ต่อ 30210, 30211 แผนกตรวจสุขภาพ
☎ 02-625-9000 ต่อ 30230, 30231 แผนกสูตินรีเวชกรรม