อาการต้องสงสัยมะเร็งทางเดินอาหาร
แชร์ :
20 May 2568

อาการต้องสงสัยมะเร็งลำไส้

ปัจจุบันมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ได้แก่ มะเร็งลำไส้และทวารหนัก  ส่วนมากมักตรวจพบเมื่อมีอาการแล้วและเป็นระยะที่โรคลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่น ดังนั้นการคัดกรองตั้งแต่มีอาการสุ่มเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง 

อาการแบบไหน มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่?

สามารถสำรวจตนเองได้ว่ามีอาการต้องสงสัยดังต่อไปนี้หรือไม่

  • คลื่นไส้

  • อาเจียน

  • แน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืดบ่อยๆ

  • ถ่ายเป็นเลือด

  • เบื่ออาหาร

  • การขับถ่ายเปลี่ยนแปลงเช่น ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจาระลำเล็กลง

  • น้ำหนักลด

  • ซีด  อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

  • คลำได้ก้อนที่ท้อง

  • ปวดเบ่งบริเวณทวารหนัก 

อาการเบื้องต้นหากทิ้งไว้อาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งลำไส้ และนำไปสู่ลำไส้อุดตันในที่สุด 

กลุ่มไหนเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ควรเข้าคัดกรอง?

นอกจากอาการต้องสงสัยที่อาจบ่งชี้ได้ว่ามีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ การอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรเข้ารับการตรวจหามะเร็งลำไส้ โดยกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ได้แก่

  • ผู้มีประวัติญาติสายตรง (พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง)เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมีติ่งเนื้อในลำไส้ควรเริ่มคัดกรองตั้งแต่อายุ 40 ปี หรือก่อนที่ญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ 10 ปี 

  • ผู้ที่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ สามารถมาตรวจได้ตั้งแต่อายุ 45 ปี

  • ผู้ป่วยที่เคยส่องกล้องแล้วเจอติ่งเนื้อมาก่อน

  • ผู้ป่วยที่มีภาวะทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ เช่น FAP, Lynch syndrome

  • มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังชนิด  Crohn’s Disease หรือ Ulcerative colitis 

  • ได้รับการฉายรังสีบริเวณช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมาก่อน 

วิธีการตรวจหามะเร็งลำไส้

การตรวจหามะเร็งทางเดินอาหารสามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่

  1. ตรวจอุจจาระ (Stool test) ตรวจหาเลือดที่ปนอยู่ในอุจจาระ

    • ข้อดี : ทำได้ง่าย สะดวกและมีราคาไม่สูงมาก

    • ข้อเสีย : ต้องเก็บตัวอย่างอุจจาระสามครั้ง อาจทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ช้า มีความไวและความแม่นยำน้อยกว่าการส่องกล้อง

  2. การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ไม่น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด โดยจะมีการให้ยานอนหลับผู้ป่วยขณะส่องกล้อง 

    • ข้อดี : มีความไวและความแม่นยำสูงที่สุด สามารถตรวจเจอติ่งเนื้อขนาดเล็ก และติ่งเนื้อชนิดแบนราบได้ หากเจอติ่งเนื้อที่อาจก่อไปสู่มะเร็ง สามารถตัดติ่งเนื้อส่งตรวจได้ทันทีและสามารถกลับบ้านภายใน 1 วัน 

    • ข้อเสีย : ต้องเตรียมลำไส้ 

    • การเตรียมตัวก่อนส่องกล้องลำไส้ใหญ่ 

      • งดรับประทานผักผลไม้ 2- 3 วันก่อนส่องกล้อง

      • รับประทานยาระบายเพื่อล้างลำไส้

      • หยุดยาละลายลิ่มเลือด(ถ้ามี) ตามที่แพทย์พิจารณา

  3. CT scan 

    • ข้อดี : ใช้ในการช่วยวินิจฉัยในกรณีสงสัยภาวะลำไส้อุดตันจากมะเร็งลำไส้

    • ข้อเสีย :  มีความแม่นยำน้อยกว่าการส่องกล้อง อาจมองไม่เห็นติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่มีขนาดเล็ก  ไม่เห็นมะเร็งหรือติ่งเนื้อที่มีลักษณะแบน  ไม่สามารถตัดติ่งเนื้อเพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ได้

บริการจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

หากคุณมีอาการต้องสงสัยข้างต้นหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่คนในครอบครัวเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนขอเสนอบริการ โปรแกรมเหมาจ่ายส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอเข้ารับบริการได้ที่แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

ขอขอบคุณบทความจาก นพ.ธราธิป ประคองวงษ์

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

แผนกอายุรกรรม

● ชั้น 2 อาคารหมอบรัดเลย์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน

● เวลาทำการ

» ทุกวัน เวลา 06.30-19.30 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม, นัดหมายแพทย์ได้ที่

☎ 0-2625-9000, 0-2760-9000 ต่อ 20230, 20231



Admin
โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
© Design By Launchplatform Co,.ltd 2024 ALL RIGHTS RESERVED.