อาการต้องสงสัยมะเร็งลำไส้
ปัจจุบันมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ได้แก่ มะเร็งลำไส้และทวารหนัก ส่วนมากมักตรวจพบเมื่อมีอาการแล้วและเป็นระยะที่โรคลุกลามไปยังอวัยวะส่วนอื่น ดังนั้นการคัดกรองตั้งแต่มีอาการสุ่มเสี่ยงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
อาการแบบไหน มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่?
สามารถสำรวจตนเองได้ว่ามีอาการต้องสงสัยดังต่อไปนี้หรือไม่
คลื่นไส้
อาเจียน
แน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืดบ่อยๆ
ถ่ายเป็นเลือด
เบื่ออาหาร
การขับถ่ายเปลี่ยนแปลงเช่น ท้องผูกเรื้อรัง ท้องเสียเรื้อรัง ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจาระลำเล็กลง
น้ำหนักลด
ซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
คลำได้ก้อนที่ท้อง
ปวดเบ่งบริเวณทวารหนัก
อาการเบื้องต้นหากทิ้งไว้อาจลุกลามกลายเป็นมะเร็งลำไส้ และนำไปสู่ลำไส้อุดตันในที่สุด
กลุ่มไหนเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ควรเข้าคัดกรอง?
นอกจากอาการต้องสงสัยที่อาจบ่งชี้ได้ว่ามีโอกาสเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ การอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรเข้ารับการตรวจหามะเร็งลำไส้ โดยกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ได้แก่
ผู้มีประวัติญาติสายตรง (พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง)เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือมีติ่งเนื้อในลำไส้ควรเริ่มคัดกรองตั้งแต่อายุ 40 ปี หรือก่อนที่ญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ 10 ปี
ผู้ที่ไม่มีอาการแสดงใด ๆ สามารถมาตรวจได้ตั้งแต่อายุ 45 ปี
ผู้ป่วยที่เคยส่องกล้องแล้วเจอติ่งเนื้อมาก่อน
ผู้ป่วยที่มีภาวะทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ เช่น FAP, Lynch syndrome
มีประวัติเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรังชนิด Crohn’s Disease หรือ Ulcerative colitis
ได้รับการฉายรังสีบริเวณช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานมาก่อน
วิธีการตรวจหามะเร็งลำไส้
การตรวจหามะเร็งทางเดินอาหารสามารถทำได้ 3 วิธี ได้แก่
ตรวจอุจจาระ (Stool test) ตรวจหาเลือดที่ปนอยู่ในอุจจาระ
ข้อดี : ทำได้ง่าย สะดวกและมีราคาไม่สูงมาก
ข้อเสีย : ต้องเก็บตัวอย่างอุจจาระสามครั้ง อาจทำให้ตรวจพบมะเร็งได้ช้า มีความไวและความแม่นยำน้อยกว่าการส่องกล้อง
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ไม่น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด โดยจะมีการให้ยานอนหลับผู้ป่วยขณะส่องกล้อง
ข้อดี : มีความไวและความแม่นยำสูงที่สุด สามารถตรวจเจอติ่งเนื้อขนาดเล็ก และติ่งเนื้อชนิดแบนราบได้ หากเจอติ่งเนื้อที่อาจก่อไปสู่มะเร็ง สามารถตัดติ่งเนื้อส่งตรวจได้ทันทีและสามารถกลับบ้านภายใน 1 วัน
ข้อเสีย : ต้องเตรียมลำไส้
การเตรียมตัวก่อนส่องกล้องลำไส้ใหญ่
งดรับประทานผักผลไม้ 2- 3 วันก่อนส่องกล้อง
รับประทานยาระบายเพื่อล้างลำไส้
หยุดยาละลายลิ่มเลือด(ถ้ามี) ตามที่แพทย์พิจารณา
CT scan
ข้อดี : ใช้ในการช่วยวินิจฉัยในกรณีสงสัยภาวะลำไส้อุดตันจากมะเร็งลำไส้
ข้อเสีย : มีความแม่นยำน้อยกว่าการส่องกล้อง อาจมองไม่เห็นติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่มีขนาดเล็ก ไม่เห็นมะเร็งหรือติ่งเนื้อที่มีลักษณะแบน ไม่สามารถตัดติ่งเนื้อเพื่อป้องกันมะเร็งลำไส้ได้
บริการจากโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
หากคุณมีอาการต้องสงสัยข้างต้นหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่คนในครอบครัวเป็นมะเร็งทางเดินอาหาร โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนขอเสนอบริการ โปรแกรมเหมาจ่ายส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อขอเข้ารับบริการได้ที่แผนกอายุรกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
ขอขอบคุณบทความจาก นพ.ธราธิป ประคองวงษ์
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
● ชั้น 2 อาคารหมอบรัดเลย์ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
● เวลาทำการ
» ทุกวัน เวลา 06.30-19.30 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม, นัดหมายแพทย์ได้ที่
☎ 0-2625-9000, 0-2760-9000 ต่อ 20230, 20231